วันพฤหัสบดีที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2553

B2C : Business to Customer

ธุรกิจเพื่อผู้บริโภค (B2C, บางครั้งเรียกว่า Business - to - Customer) อธิบายถึงกิจกรรมของธุรกิจให้บริการกลุ่มลูกค้าด้วยสินค้าและ / หรือบริการ สร้างรายได้กับ B2C Marketing
อินเทอร์เน็ตได้นำการทำธุรกิจในระดับใหม่ ในแง่ที่ง่ายที่สุดที่เป็นธุรกิจที่ประสบความสำเร็จจากการขายสินค้าและบริการให้กับลูกค้า เดิมธุรกิจสามารถเฉพาะระหว่างวันที่ตนเองทำธุรกิจชั่วโมงและคนเท่านั้น ที่อาศัยอยู่ในระยะสั้นที่ บริษัท จริง อินเทอร์เน็ตมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากแนวคิดนี้ในลักษณะที่ไม่ fathomed แม้สิบปีที่แล้ว ในยุคของความสะดวกสบายที่เราอาศัยอยู่ในขณะนี้จะเป็นจริงได้ง่ายขึ้น เพื่อสร้างรายได้ด้วยธุรกิจที่มีแผนการตลาดผู้บริโภคกว่าด้วยวิธีการก่อนหน้าใช้ ซึ่งเป็นจริงเพราะล้านคนเล่นอินเตอร์เน็ตทุกวันค้นหาสินค้าและบริการและพวกเขาได้เพียงปลายนิ้วสัมผัสทุกอย่างเกี่ยวกับเขา หลายคนเปิดอินเทอร์เน็ตเพื่อซื้อสินค้าทุกวัน ที่สุดคนสินค้าออนไลน์ค้นหาอย่างก่อนที่จะตัดสินใจซื้อแล้วเป็นผลจากการค้นหาของพวกเขาให้ซื้อจริงของพวกเขาในเว็บไซต์ที่พบในการค้นหากับอินเตอร์เน็ตอย่างกว้างขวาง นิยมบ้านและธุรกิจต่างประเทศช้อปปิ้งออนไลน์เป็นที่นิยมมากกว่าที่เคย ทางร้านคนในวันนี้และอายุมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ความสะดวกในการช้อปปิ้งบนอินเทอร์เน็ตมีเพียงมากเกินไปที่จะผ่านขึ้น ต้องจริงออกไปและค้นหารายการที่ต้องการจะไม่จำเป็น ดูธุรกิจนี้เป็นโอกาสใหญ่สำหรับพวกเขา เว็บไซต์หลายแห่งมีข้อตกลงที่ดีในการดึงดูดผู้บริโภคและให้พวกเขากลับมาซ้ำแล้วซ้ำอีก แม้เมื่อรวมค่าขนส่ง, deals บางที่มีการเสนอผ่านเว็บไซต์ทำให้ยากที่จะปฏิเสธการซื้อสินค้าออนไลน์    เพียงแค่แนวคิดของ  shopping จากความสะดวกสบายของบ้านของคุณเองได้ดีเกินกว่าที่ลดลง นี้อาจมีประโยชน์ต่อธุรกิจเพราะไม่จำเป็นต้องมี 9-5 ชั่วโมงเพื่อให้เงิน เว็บไซต์ส่วนใหญ่เป็นอัตโนมัติเพื่อจุดที่คนไม่จำเป็นต้องได้ทำรายการ ลูกค้าสามารถค้นหาและรายการซื้อด้วยบัตรเครดิตหรือวิธีการชำระเงินอื่นๆ นี้เป็นประโยชน์ต่อธุรกิจอย่างมากเพราะลูกค้าสามารถซื้อวันเวลาหรือคืนจากสถานที่ใดในโลกงานกลยุทธ์ที่แตกต่างกันสำหรับธุรกิจอื่นในการทำกำไรในเว็บไซต์ของพวกเขา ระดับของตลาดที่มีความจำเป็นมากขึ้นอยู่กับผลิตภัณฑ์หรือบริการ บางธุรกิจนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ไม่พบได้ง่ายโดยไซต์อื่นๆ ซึ่งจะช่วยให้พวกเขาเมื่อลูกค้าที่มีศักยภาพจะค้นหาและทางธุรกิจเป็นธุรกิจด้านบนในการค้นหา จำเป็นต้องพูดธุรกิจนี้ไม่จำเป็นต้องขยายตลาดประสบความสำเร็จ ธุรกิจอื่น ๆ ต้องการความช่วยเหลือบางอย่างในแนวทางการเข้าชมเว็บไซต์ของตน กุญแจสำคัญคือการมีผู้ใช้เว็บไซต์ที่เป็นมิตรผู้ใช้รู้สึกสบายทำธุรกรรมโดยไม่คำนึงถึงระดับความเชี่ยวชาญของพวกเขา เช่นเดียวกับธุรกิจใด ๆ กุญแจสู่ความสำเร็จคือการสร้างรายได้โดยการใช้จ่ายเงินเป็นจำนวนมาก ต้นทุนการโฆษณาจะขึ้นอยู่กับผลิตภัณฑ์และสามารถช่วงจากค่าใช้จ่ายสูงมากค่าใช้จ่ายใดๆ



ที่มา:http://www.infosum.net/th/ecommerce/making-money-with-b2c-marketing.html

วันอังคารที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

Question...device driver

1. โปรแกรม Device driver มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ผลิตอย่างไร

     1. ผู้ผลิตระบบปฏิบัติการและผู้ผลิตอุปกรณ์แต่ละแบบจะจัดการแจกจ่าย โปรแกรมสำหรับ อุปกรณ์นั้นๆไปด้วย
     2. ผู้ผลิตมีความสะดวกสบายในระบบปฏิบัติการ
     3. ผู้ผลิตสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์เข้ากับคอมพิวเตอร์และใช้งานได้เลยทันที
     4. ข้อ 1 และ 3 ถูกต้อง

2.  Device driver มีความหมายว่าอย่างไร

     1. เป็นองค์ประกอบบอกประเภทของ ฮาร์ดแวร์ ว่าเป็นประเภทของพวกใด
     2. โปรแกรมที่เขียนขึ้นเพื่อใช้เป็นข้อกำหนดในการใช้อุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกัเครื่องคอมพิวเตอร์
         โดยเฉพาะ เพื่อให้สามารถสั่งให้ทำงานผ่านคอมพิวเตอร์
     3. เป็นระบบที่จะเก็บงานที่สั่งพิมพ์ต่างๆ รวมไว้และจัดคิวที่จะส่งไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์ตามลำดับ
     4. เป็นเส้นทางที่ใช้ระบุที่อยู่ในการจัดเก็บไฟล์ในระบบปฏิบัติการโดยจะเริ่มอ้างอิงตั้งแต่ต้นทาง

3.  Device driver  มีประโยชน์ต่อการทำงานกับคอมพิวเตอร์อย่างไร

     1. ทำให้คอมพิวเตอร์สามารถทำงานได้หลายๆคำสั่งงานในเวลาเดียวกัน
     2. ทำกรแปลโปรแกรมที่เขียนเป็นภาษาระดับสูงทั้งโปรแกรมให้เป็นภาษา
         เครื่องก่อนแล้วจึงให้คอมพิวเตอร์ทำงานตามภาษาเครื่องนั้น
     3. ทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์มีความจุมากขึ้น
     4. เพื่อควบคุมอุปกรณ์ชนิดนั้นๆ โดยเฉพาะและให้เครื่องคอมพิวเตอร์สามารถตัดต่อสื่อสาร
         รวมถึงสั่งงานบางอย่างได้ ซึ่งมีความจำเป็นอย่างมาก
       

วันพุธที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

Web and Video Conference

ระบบการประชุมทางไกลออนไลน์ หรือ Conference เป็นเทคโนโลยี ที่ช่วยสนับสนุนการประชุมทางไกลผ่านอินเตอร์เน็ต โดยระบบ Web Conference นี้จะสามารถแสดงทั้งภาพ และเสียงของผู้เข้าร่วมประชุมได้พร้อมกันหลายๆ คน อีกทั้งสามารถนำเสนอข้อมูลต่อที่ประชุมในรูปแบบของไฟล์ชนิดต่างๆ เช่น Microsoft PowerPoint, PDF, Jpeg, Bmp เป็นต้น และยังสามารถสื่อสารด้วยข้อความ (Chat) ตลอดจนการบันทึกการประชุมออนไลน์ เหมาะสำหรับการประชุมทางไกลภายในหน่วยงาน หรือกับลูกค้าหรือคู่ค้าขององค์กร การประชาสัมพันธ์สินค้า การเรียนการสอน การฝึกอบรมและกิจกรรมสนทนาต่างๆ



มาตรฐาน “H.323” คือมาตรฐานที่ถูกกำหนดขึ้นโดยองค์กร ITU (International Telecommunication Union) โดยองค์กรนี้จะกำหนดโครงสร้างสถาปัตยกรรมของการทำภาพและเสียง หรือส่งผ่านข้อมูลให้ออกมาในรูปแบบมาตรฐานสากล โดยผู้ผลิตอุปกรณ์ต่างๆ จะต้องนำมาตรฐานนี้ไปออกแบบให้อุปกรณ์สามารถรองรับการทำงานในมาตรฐานเดียวกันได้ ซึ่งในวันนี้เราจะมาพูดถึงรูปแบบของการประชุมทางไกลเพื่อให้แต่ละองค์กรรนำไปประยุกต์ใช้งานให้เหมาะสมกันครับ
รูปแบบของ VDO Conference แบ่งเป็น
End point ซึ่งแบ่งออกได้เป็น 2 ลักษณะดังนี้
1. Desktopเป็นอุปกรณ์ที่มีราคาถูก สามารถทำการประชุมได้โดยใช้ Hardware ของ Workstation ทำงาน แต่จะให้คุณภาพของภาพและเสียงไม่ดีนัก และจะต้องติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติม เช่น กล้องและไมโครโฟน เป็นต้น
2. Conference room:เป็นอุปกรณ์ที่มีราคาสูงกว่าแต่ก็มีคุณภาพดีกว่า Desktop เช่นกันซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้สามารถทำการประชุมในสภาวะใช้แบนด์วิธสูงได้รวมถึงยังมีฟังก์ชันการใช้งานที่ดีกว่า เช่น การแสดงภาพผู้สนทนา ร่วมกันในจอภาพเดียวกัน หรือที่เรียกว่า PIP (Picture in Picture)หรือสามารถแยกจอภาพการสนทนาระหว่างกัน (Dual Monitor)ได้ด้วยเช่นกัน



Multipoint Control Unit (MCU)
เป็นอุปกรณ์ทำหน้าที่รวบรวม ประมวลผล และควบคุมการประชุมที่มากกว่า 2 End point ขี้นไป โดยจะมีความสามารถ เช่น แบ่งหน้าจอในการทำ Conference รองรับ Session ในการทำ Conference พร้อมกันได้คราวละมากๆ สามารถเชื่อมต่อกับระบบเน็ตเวิร์กได้หลากหลายรูปแบบ เช่น เชื่อมต่อกับระบบ Leased Line, ISDN PRI เป็นต้น



Gate Keeper
เป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่ในการแปลงความหมายของการเรียก (Dial) หรือหมุนเลขหมายเบอร์ Extension ที่ง่ายต่อการจดจำของผู้ใช้ เช่น จาก 1234 ไปเป็นหมายเลข IP Address 230.199.299.19 แต่ในปัจจุบัน Gatekeeper สามารถทำงานร่วมกับAuthentication Server เช่น RADIUS, LDAP ในการกำหนดรายละเอียด หรือ สิทธิ์ของผู้ใช้ในการใช้ VDO Conferenceหรือบางทีก็จะมีการทำ Accounting เก็บ Logging หรือบันทึกการใช้ VDO Conference ของแต่ละ User ได้ด้วย





Web Conference
ระบบการประชุมทางไกลออนไลน์ หรือ Web Conference เป็นเทคโนโลยี ที่ช่วยสนับสนุนการประชุมทางไกลผ่านอินเตอร์เน็ต โดยระบบ Web Conference นี้จะสามารถแสดงทั้งภาพ และเสียงของผู้เข้าร่วมประชุมได้พร้อมกันหลายๆ คน อีกทั้งสามารถนำเสนอข้อมูลต่อที่ประชุมในรูปแบบของไฟล์ชนิดต่างๆ เช่น Microsoft PowerPoint, PDF, Jpeg, Bmp เป็นต้น และยังสามารถสื่อสารด้วยข้อความ (Chat) ตลอดจนการบันทึกการประชุมออนไลน์ เหมาะสำหรับการประชุมทางไกลภายในหน่วยงาน หรือกับลูกค้าหรือคู่ค้าขององค์กร การประชาสัมพันธ์สินค้า การเรียนการสอน การฝึกอบรมและกิจกรรมสนทนาต่างๆ









โลกแห่งการสื่อสารในปัจจุบันได้มีการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาช่วยพัฒนาการสื่อสารทั้งภายใน และภายนอกองค์กรเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานอันจะส่งผลให้การดำเนิน งานเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ซึ่งะบบการประชุมทางไกลออนไลน์ หรือ Web Conference สามารถช่วยให้การดำเนินธุรกิจ ทำได้สะดวกสบาย รวดเร็วยิ่งขึ้น









ลักษณะเด่นของ Web Conferencing
• Multi Party Conference : สามารถทำการประชุมหลายคู่สาย multiparty Conferencing และ Collaboration ได้อย่างเต็มรูปแบบบน single server
• Software base : เป็น SIP Software base ประหยัดค่าใช้จ่ายในการขยาย Hardware เพิ่ม no proprietary hardware และการ maintenance
• ลดค่าใช้จ่าย : ลดค่าใช้จ่ายในการจัดประชุม และประสานงานนัดหมาย ลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางเพื่อมาประชุม เพิ่มประสิทธิภาพในการประชุมด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานที่จำเป็นและหลากหลาย เพิ่มประสิทธิภาพของงาน และผลผลิต
• ห้องประชุมพกพา : ประชุมได้ในทุกที่ ทุกเวลา ทั่วโลก ผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต
• นัดหมายง่าย ใช้สะดวก : นัดหมายและบริหารการประชุมได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และบ่อยเท่าที่ต้องการผ่านทาง email
• เครื่องมือช่วยสนทนา : มีเครื่องมือใช้งานที่หลากหลายที่รองรับการประชุม เช่น กระดานอิเล็คทรอนิคส์ การแชร์ไฟล์ การส่งข้อความ การจัดทำโพลล์สำรวจความคิดเห็น การแชร์หน้าจอคอมพิวเตอร์ เป็นต้น
• ควบคุมการประชุม : ควบคุมการประชุมได้เสมือนการประชุมจริง โดยประธานสามารถปิดเสียง ผู้เข้าประชุมท่านอื่น อนุญาตเฉพาะผู้มีสิทธิสามารถพูด หรืออาจเชิญสมาชิก ท่านใดท่านหนึ่งออกจากห้องประชุมได้
• บันทึกการประชุมออนไลน์ : บันทึกการประชุมออนไลน์ได้ และสามารถนำเนื้อหาการประชุมกลับมาทบทวนใหม่ได้
• เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน: ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานเป็นทีมมากขึ้น ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนสามารถติดต่อสื่อสาร ส่งข้อมูล sharing data และ application กันได้สะดวกยิ่งขึ้น
เราได้รู้จักการประชุมทางไกลในรูปแบบต่างๆ แล้ว ก็ขอพูดถึงประโยชน์โดยตรงที่ได้รับจากการใช้การประชุมทางไกลผ่านเครือข่ายกันบ้าง ดังนี้
1. ลดค่าใช้จ่ายในการจัดประชุม รวมทั้งค่าเดินทางเพื่อมาประชุม เนื่องจากสามารถใช้จัดประชุมผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้ทั่วโลก โดยผู้เข้าร่วมประชุมสามารถ เข้ามาประชุมร่วมกันได้ทันที ประชุมได้ในทุกที่ ทุกเวลา ทั่วโลกผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต
2. ลดเวลาในการเดินทางเข้ามาประชุม ในกรณีผู้ประชุมแต่ละท่านอยู่ห่างไกลกัน จะทำให้หมดเวลาไปกับการเดินทางเข้ามาประชุมมากขึ้นด้วย
3. เพิ่มประสิทธิภาพในการประชุมด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานที่จำเป็นและ หลากหลาย โดยสามารถนัดหมายและบริหารการประชุมได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ผ่านทาง E-mail รวมทั้งมีเครื่องมือใช้งานที่หลากหลายที่รองรับการประชุม เช่น กระดานอิเล็คทรอนิคส์ การแชร์ไฟล์ การส่งข้อความ การแชร์หน้าจอคอมพิวเตอร์ เป็นต้น
4. เพิ่มประสิทธิภาพของงาน และผลผลิตทางธุรกิจ โดยในระหว่างการสนทนาสามารถแทรก Slide ที่เป็น PowerPoint เข้าไปในกลุ่ม ผู้เข้าร่วมสนทนาได้ เหมือนประหนึ่งอยู่ในห้อง เดียวกัน ในระหว่างการสนทนาผู้ร่วมสนทนาสามารถดาว์นโหลด หรือ บันทึก slides และ Chat ได้
5. การจัดฝึกอบรมผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ทำให้ผู้เรียนและผู้สอนได้รับความสะดวกในการฝึกอบรม ประหยัดค่าใช้จ่าย และเวลา และในขณะที่ฝึกอบรมผู้สอนยังสามารถสอดแทรกภาพ เอกสาร หรือ VDO Clip เพื่อให้ผู้เรียนเข้าใจได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
6. การนำไปใช้เป็นเครื่องมือ E-Learning เป็นการเรียนการสอนแบบ Real Time ซึ่งมหาวิทยาลัย โรงเรียนต่างๆ สามารถถ่ายทอด การเรียนการ สอนจากสถานที่หนึ่งไปอีกสถานที่หนึ่งได้ และผู้เรียนจาก ปลายทางสามารถโต้ตอบ สอบถามกับครูผู้สอนได้ในทันที
7. การใช้ประโยชน์ในทางการแพทย์ โดยจะเป็นการตรวจรักษา การวินิฉัยอาการของผู้ป่วยที่อยู่ห่างไกลหมอ เป็นรูปแบบการรักษาแบบ Tele Medicine สามารถถ่ายทอดสัญญาน และภาพของผู้ป่วยไปยังแพทย์ผู้รักษาได้อย่างชัดเจน รวมทั้งสามารถส่งผ่านข้อมูลประวัติคนไข้ไปยังหมอผู้รักษาได้ทันทีจะเห็นได้





ที่มา:http://www.siambee.com/?p=64

วันอังคารที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2553

cpu ตัวใหม่ล่าสุด

Core i7 ซึ่งเป็นซีพียูรุ่นใหม่ของอินเทล ซึ่งเปิดตัวได้ไม่นาน หลังจาก Core 2 Duo กำลังฮิต ในขณะนี้ ได้กำลังจะถูก Core i7 มาแทนที่เสียแล้ว (มันออกไรกันนั้นวะ?) Core i7 ออกมาได้ 3 รุ่น คือ # Core i7 965 Extreme Edition ความเร็ว 3.2 GHz # Core i7 940 ความเร็ว 2.93 GHz # Core i7 920 ความเร็ว 2.60 GHz อย่างที่รู้ๆ กันอยู่ Core 2 Duo ของเราที่กำลังฮิต มี 2 คอร์ ซึ่งก็หมายถึง มีตัวประมวล ผล CPU 2 ตัว ใน CPU ตัวเดียว อย่าง Core 2 Duo 2.00Ghz เมื่อบวกด้วยจำนวน 2 อีกตัวก็คือ 4.00 Ghz แต่ Core i7 เหนือกว่า Core 2 Duo ซะอีก ซึ่ง Core i7 นี้ มี คอร์ถึง 4 ตัวด้วยกันใน CPU เพียงตัวเดียว พูดให้ชัดๆ ก็คือ มี CPU 4 ตัวในตัวเดียว พระเจ้า!!! มันจะฮานาก้าไปถึงไหน? อย่างเช่น Core i7 965 Extreme Edition ความเร็ว 3.2 GHz คูณด้วย 4 จะได้เท่าไรครับ คำตอบคือ 12.8 Ghz มันโครตซุปเปร์เร็วเลย... เรียกได้ว่า คอมคุณจะไม่ค้าง จะทำงานประมวลผลได้ไม่ถึง วินาทีด้วยซ้ำ



แถมวัดสถิต โลกด้วยว่า เป็น CPU ที่ทำงานกับโปรแกรมกราฟิคได้เร็วที่สุดในโลก



แถมผล ให้คะแนนของกรรมการไอที อย่างได้เกิน 100 ด้วย ซึ่งยังไม่มี CPU ตัวไหนได้คะแนนเกินมาตรฐานอย่างนี้..




ผลเทียบกับ Core 2 Duo จะเห็นว่า Core 2 Duo แพ้อย่างราบคาบ นอกจากนี้ยังมีระบบใหม่ๆ ของการทำงานของ CPU ด้วย อย่างแรกคือ QuickPath Interconnect (QPI) ซึ่งเป็นระบบเชื่อมต่อระหว่างตัวซีพียูแบบใหม่ที่ออกมาสู้กับ HyperTransport ของเอเอ็มดีที่ออกมานานแล้ว เดิมทีซีพียูของอินเทลจะแพ้เอเอ็มดีตรงที่ไม่มี HyperTransport ใช้แค่ FSB ธรรมดา พอตอนนี้ฝั่งอินเทลมี QPI ก็ถือว่าเท่าเทียมกันแล้ว หลายคนอาจจะยังจำ Hyper-threading (HT หรือเธร็ดปลอม) ในสมัย Pentium IV Netburst ได้ พออินเทลสามารถสร้างซีพียูแบบสองคอร์จริงได้ในยุค Core 2 ความสามารถด้าน HT เลยถูกตัดออกไป ตอนนี้มันกลับมาใหม่ในยุค Core i7 ซึ่งตอนนี้มีขายเฉพาะรุ่น 4 คอร์ แปลว่า Core i7 นั้นสามารถทำงานได้เสมือนว่ามีทั้งสิ้น 8 คอร์ TurboBoost เป็นฟีเจอร์ใหม่ มันคือการเลือกปิดบางคอร์ที่ไม่จำเป็น เพื่อเอาพลังงานไปโปะให้คอร์ที่เหลืออยู่ให้ทำงานได้แรงขึ้น มันจะใช้ในกรณีที่เจอลักษณะงานที่กระจายไปหลายคอร์ได้ลำบาก ทำให้ 4 คอร์ไม่ช่วยให้ประสิทธิภาพดีขึ้น ก็ต้องเปลี่ยนเป็นการประมวลผลแบบซีพียูเดี่ยว (หรือสองซีพียู) ที่แรงขึ้นแทน สุดท้ายคือความพร้อมในการใช้งานของ Core i7 ทางอินเทลได้ออกชิปเซ็ต X58 มาเตรียมไว้รอแล้ว ในงานนี้มีขนเมนบอร์ดที่ใช้ X58 มาให้ดู 3 ยี่ห้อคือ ASUS, GigaByte และ MSI

Core i7 วางแผงแล้ววันนี้ ที่ตัวแทนจำหน่าย สินค้าไอทีชั้นนำ





ที่มาhttp://www.gconsole.com/forum/show.php?page=topicdetail&id=52398